ก่อนจะมาเป็นไก่ปั่น
เป็นที่ทราบกันดีว่า อกไก่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่จะช่วยในการสร้างกล้าม ก่อนหน้านี้ผมก็กินอกไก่ทุกวัน ปรุงโดยวิธีผัดบ้าง ต้มบ้าง อบบ้าง นึ่งบ้าง ทำกินทุกวัน เมื่อผ่านไปนานหลายเดือนก็พบว่า เราเสียเวลากับการเตรียมอาหารไม่ใช่น้อยเลย ยกตัวอย่างเมนูที่ผมทำบ่อยๆคือ เมนูผัดกระเพราไก่ หลังจากซื้อไก่เสร็จ ผมจะต้องไปหาซื้อใบกระเพรา ถั่วผักยาว พริก กระเทียม หัวหอมใหญ่ เมื่อกลับมาห้องครัว ก็จะต้องล้างผัก เด็ดผัก หั่นไก่ ก่อนจะทำก็ต้องมั่นใจว่าเครื่องปรุงมีครบ เมื่อปรุงอาหารเสร็จแล้วก็จะต้องล้างเครื่องครัวสารพัตรอย่าง ส่วนผักที่ปรุงไม่หมดก็ต้องเก็บเข้าตู้เย็น บางครั้งผักที่ซื้อมาปรุงไม่หมดก็ต้องทิ้งไป ปัญหาในการกินอกไก่ไม่ใช่เพียงการเตรียมไก่เท่านั้น การกินไก่จำนวนมากๆในวันเดียวก็มีปัญหาเรื่องการเคี๊ยวเนื้อไก่นานๆทำให้เมื่อยปากมากและเบื่ออาหาร
ไก่ปั่น เริ่ม!
ต่อมามีเพื่อนชวนให้ทดลองทำนำไปปั่นเป็นน้ำดื่มกินแทน ผมเลยไปหาซื้อเครื่องปั่นทดลองทำ ตอนแรกรสชาติที่ได้ก็ไม่อร่อยเลย จึงทดลองผสมอาหารอื่นๆลงไปปั่นด้วยเพื่อกลบกลิ่นเนื้อไก่ จนต่อมาก็ได้สูตรไก่ปั่นที่ไม่เพียงไม่มีกลิ่นคาวของเนื้อไก่เท่านั้น ยังมีรสชาติอร่อยเหมือนนมปั่นด้วย ถ้าหลับตากินก็จะไม่มีทางรู้ว่าเป็นน้ำที่มีเนื้อไก่ผสมอยู่
ไก่ปั่นดีกว่าอย่างไง
หลังจากที่ผมทำไก่ปั่นกินอยู่สักพักก็พบว่า การเตรียมอาหารง่ายขึ้นกว่าในอดีตมาก วัตถุดิบที่ต้องใช้ก็น้อยมาก ไม่ต้องหาซื้อผักมาเก็บค้างในตู้เย็นอีกต่อไป เครื่องปรุงก็ไม่ต้องใช้ ร่างกายจึงได้รับปริมาณโซเดียมลดลงจากแต่ก่อนมาก ที่สำคัญคือผมไม่ต้องปรุงอาหารทุกวันอีกต่อไป เนื่องจากไก่ปั่นสามารถปั่นทีเดียวเก็บไว้ได้นานกว่า 5 วัน ซึ่งปกติผมจะเตรียมทีเดียวไว้สำหรับกิน 4 วัน ในการกินไก่ปั่นบางครั้งผมก็กินหลังจากมื้อหลัก ดื่มไก่ปั่นให้ดับกระหายแก้ฝืดคอได้ มันทำให้ผมไม่ต้องกังวลว่าอาหารมื้อนั้นจะได้กินเนื้อสัตว์เพียงพอหรือไม่ และในบางครั้งผมก็ดื่มไก่ปั่นระหว่างมื้อด้วย ทำให้ไม่มีช่วงเวลาหิวระหว่างมื้อ นอกจากแก้หิวระหว่างมื้อได้ ไก่ปั่นยังย่อยเร็ว ไม่ไปกระทบกับอาหารมื้อถัดไปด้วย ทำให้โดยรวมแล้ว ผมสามารถกินอาหารได้มากเพียงพอต่อการสร้างกล้าม
ผมกินไก่ปั่นมานานติดต่อกันกว่า 3 เดือนแล้ว ไม่เกิดความรู้สึกเบื่อเลย ผมยังสามารถกินได้วันละ 1.5 ลิตรทุกวัน (ทำมาจากอกไก่ 500 กรัม ) ผมคิดว่าที่ผมไม่เบื่อคงเพราะมันดื่มง่าย ไม่กระทบกับอาหารหลักอื่นๆของผม การดื่มไก่ปั่นจึงเหมือนเป็นการดื่มนมดับกระหายเล่นๆสำหรับผมมากกว่า ผมคงจะกินเมนูไก่ปั่นนี้ไปอีกนานจนถึงการประกวดกล้ามในปีหน้าเลย
สำหรับผลลัพท์ของการดื่มไก่ปั่นนั้น ในช่วง 3 เดือนกว่าที่ผ่านมา น้ำหนักของผมเพิ่มขึ้นมา 8.7 kg หากดูจากภาพอาจไม่เห็นความแตกต่างของกล้ามเนื้อมากนัก แต่จากการส่องดูรูปทรงกล้ามเนื้อตัวเองในกระจกแล้ว ผมมั่นใจว่า 8.7 kg ที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่ไขมันทั้งหมดแน่นอน
สูตรไก่ปั่น 5 ดาว
สำหรับคนที่ไม่มั่นใจว่าตัวเองได้รับโปรตีนต่อวันเพียงพอหรือไม่ ผมอยากจะเชื้อเชิญให้ได้ลองทำเมนูไก่ปั่นดู ผมทดลองมาหลายสูตรมาก วันนี้ผมจะขอนำเสนอสูตรทำง่าย อร่อย น้ำตาลต่ำ ไม่มีโซเดียม วัตถุดิบหาง่าย ราคาถูก
วัตถุดิบที่ใช้นอกจากไก่ต้มสุกจืดๆ 500 กรัม (น้ำหนักชั่งก่อนต้ม) และน้ำเปล่าแช่เย็น 800 mL แล้วก็จะมีดังนี้
1.กล้วยหอมขนาดกลาง 1 ลูก (กล้วยน้ำว้าก็ได้ แต่จะไม่มีกลิ่นหอมเท่าไร)
2.นมเปรี้ยวโยเกิร์ตดัชมิลล์ 200 mL (สูตรไลฟ์+)น้ำตาล 2%
3.ข้าวโอ๊ตสูตร Instant 30 กรัม ( 1 scoop whey พอดี) ข้าวโอ๊ตไม่ต้องต้ม ใส่ผสมปั่นได้เลย
ขั้นตอนการทำการก็เพียงนำวัตถุดิบที่กล่าวมาทั้งหมดใส่ไปในโถปั่นทีเดียว แล้วปั่นเป็นเวลานาน 1 นาที ผมแนะนำให้ใช้นาฬิกาจับเวลาให้ได้ 1นาที แทนที่จะใช้ความรู้สึกเอาว่าครบ 1 นาทีแล้ว เพราะเท่าที่หลายคนเอาสูตรนี้ไปใช้มักจะปั่นไม่ถึง 1 นาทีก็หยุดปั่น เนื้อไก่จึงไม่ละเอียดเป็นน้ำ ทำให้ดื่มแล้วฝืดคอติดคอได้ ในการปั่นผมแนะนำให้ใช้เครื่องปั่นที่มีกำลังวัตต์ 600 ขึ้นไป ถึงจะสามารถปั่นเนื้อไก่ได้ละเอียดเป็นน้ำได้
สารอาหารในไก่ปั่น
เมื่อปั่นเสร็จแล้วจะได้ปริมาณน้ำไก่ปั่นประมาณ 1.5 ลิตร หากแบ่งกินเป็น 3 แก้ว ก็จะสารอาหารประมาณคร่าวๆ ดังนี้
1.โปรตีน 40 กรัม/แก้ว
2.Carbohydrate 22 ได้จากกล้วยและข้าวโอ๊ต
3.น้ำตาล 8 กรัม/แก้ว มาจากกล้วยมากสุด
4.ใยอาหาร 2 กรัม/แก้ว
5.Fat 2 กรัม/แก้ว
6.พลังงาน 300 kCal/แก้ว
สำหรับราคานั้น ผมคำนวณแล้วในการปั่น 1 ครั้ง 1.5 ลิตรจะราคาประมาณ 60 บาทเท่านั้นเอง
ไก่ปั่นภาคสนาม
- – หากใครลองแล้วยังไม่ถูกใจ ก็ให้เพิ่มกล้วย หรือเพิ่มนม หรือเพิ่มข้าวโอ๊ต รสชาติจะอร่อยกว่าเดิม แล้วหากปั่นแล้วมีความหนืดมากเกินไป เกิดจากการพองตัวของข้าวโอ๊ต สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปเพิ่มได้
- – เมื่อเก็บไก่ปั่นไว้ในตู้เย็นแล้ว จะมีการแยกชั้นเกิดขึ้น ชั้นบนจะเป็นน้ำใส ไม่ต้องตกใจนะครับ เป็นปกติของอาหารที่ไม่ได้ผสมกันเป็นเนื้อเดียวกัน ไก่ปั่นนั้นไม่ได้เสียนะครับ สามารถเก็บในตู้เย็นได้นานกว่า 5 วัน และกลิ่น รสชาติไม่เปลี่ยนเลย
- – เนื่องจากขนาดโถปั่นทั่วไปมีขนาด 1.5 ลิตรเท่านั้น หากจะปั่นกินสำหรับ 4 วันแบบผม ก็จะต้องแยกปั่น 4 ครั้ง จากนั้นแบ่งไก่ปั่นใส่ขวด shaker whey หรือหาซื้อขวดน้ำขนาดใหญ่ 2 ลิตร ผมแนะนำว่าหาซื้อขวดที่มีฝาเปิดปากกว้างมากๆ เวลาล้างทำความสะอาดจะทำได้ง่าย
- – ไก่ปั่นเป็นอาหารหลัก ไม่ใช่อาหารเสริม หากร่างกายได้รับอาหารหลักเพียงพอแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริมเวย์โปรตีน ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณได้โปรตีนอาหารไม่เพียงพอ การดื่มเวย์โปรตีนไปด้วยก็ย่อมจะดีต่อการสร้างกล้ามมากกว่า
- – เนื่องจากไก่ปั่นเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้อิ่มได้เร็วมาก แต่ก็ย่อยและหิวใหม่ได้เร็ว ดังนั้นหากจะกินแทนมื้อหลักเลย ก็อาจจะไม่อยู่ท้อง แถมปริมาณคาร์บโบไฮเดรทในไก่ปั่นก็มีไม่มากพอต่อความต้องการของร่างกายด้วย ดังนั้น ไก่ปั่นจึงไม่อาจทดแทนมื้อหลักได้ แต่จะทำให้มื้อหลักกินไม่มากเกินไปได้ ส่วนตัวผมแนะนำให้กินระหว่างมื้อ ซึ่งจะไม่ทำให้กระทบต่อมื้อหลักมื้อถัดไป
- – สำหรับคนที่ไม่สามารถดื่มนมเปรี้ยวโยเกิร์ตได้ อาจจะใช้นมถั่วเหลืองดีน่าแทนได้นะครับ
คนที่ต้องการลดน้ำหนัก กับการกินไก่ปั่น
ในช่วงที่ต้องการจะลดเอาไขมันออกจากร่างกายนั้น เราจะลดพลังงานที่ได้จากอาหารให้น้อยกว่าพลังงานที่ร่างกายต้องใช้ อย่างไรก็ตาม ร่างกายยังคงต้องใช้โปรตีนในการรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ ไม่ให้สลายไป ยิ่งร่างกายลดพลังงานอาหารลง โอกาสที่จะสลายกล้ามเนื้อไปยิ่งมากขึ้น ดังนั้น ช่วงลดน้ำหนักจึงควรจะทานโปรตีนมากกว่าปกติ แต่ในชีวิตจริง อาหารที่เรามักจะเลี่ยงเวลาลดน้ำหนัก เช่น อาหารทอด หรืออาหารมันๆ มักเป็นแหล่งโปรตีนเดิมที่เราทานอยู่ประจำ จึงกลายเป็นว่าเราทานโปรตีนลดลงจากปกติ เมื่อถ้าร่างกายได้รับโปรตีนน้อย ร่ายกายก็จะสลายกล้ามเนื้อไปใช้งานแทน แปลว่าน้ำหนักลดได้ก็มาจากมวลกล้ามที่หายไปด้วย เมื่อมวลกล้ามเนื้อลดลง ความแข็งแรงของร่างกายก็จะลดลงด้วย รวมไปถึงความสามารถในการเผาผลาญไขมันก็ลดลง
ในเมื่อธรรมชาติของคนที่ลดน้ำหนักคือ จะทำตัวกินน้อยไว้ก่อน แต่การกินน้อยแบบไหนถึงจะได้รับโปรตีนเพียงพอละ? ไก่ปั่นจึงกลายเป็นทานออกที่ดีในตรงนี้ เช่น หากคุณวางแผนว่าช่วงลดน้ำหนักจะต้องกินโปรตีนไม่น้อยกว่า 120 กรัม/วัน คุณก็เพียงแค่เตรียมไก่ปั่นที่มาจากไก่ 5 ขีด (ใน 1 ขีดมีโปรตีนประมาณ 23 กรัม) แล้วกินให้ได้หมดภายใน 1 วัน เท่านี้ก็ทำให้ร่างกายไม่ขาดโปรตีนแล้ว ไก่ปั่นในช่วงลดน้ำหนักไม่ใช่อาหารที่กินเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ แต่กินเพื่อรักษาไม่ให้กล้ามเนื้อสลายหายไปนั่นเอง
คนที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ กับการกินไก่ปั่น
สำหรับคนที่ไม่ได้คุมอาหารแล้วกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นได้ นั่นแสดงว่ากล้ามเนื้อยังเพิ่มไม่ถึงขีดจำกัดของอาหารที่กินอยู่ เมื่อกล้ามเนื้อเพิ่มไปถึงจุดๆหนึ่งแล้ว จำเป็นจะต้องกินอาหารมากขึ้น โดยทั่วไปในชีวิตจริง สารอาหารที่มักจะได้รับเพียงพอคือ คาร์บโบไฮเดรท และไขมัน ซึ่งมักจะได้จากข้าว ขนมปัง ดังนั้นเพื่อจะมั่นใจว่าได้โปรตีนเพียงพอ บางคนจึงกินเยอะมากๆ ซึ่งกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วนขึ้นมากกว่าปกติ
ในเมื่อไม่สามารถมั่นใจได้ว่าโปรตีนที่กินอยู่เพียงพอหรือยัง เราก็เตรียมเมนูไก่ปั่นไว้ล่วงหน้าในปริมาณที่จะได้โปรตีนเพียงพอต่อร่างกาย ส่วนคาร์บโบไฮเดรทและไขมันก็กินเพิ่มจากอาหารอื่น เท่านี้ไก่ปั่นก็มีส่วนช่วยให้โปรแกรมอาหารเอื้อต่อการสร้างกล้ามได้ง่ายขึ้นแล้ว
ไก่ปั่นคือคำตอบหรือไม่
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกว่า ถึงแม้ผมจะพูดถึงไก่ปั่นว่าดีมากมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า อาหารอื่นไม่ดีนะครับ หากจัดสรรอาหารอื่นเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกินไก่ปั่น ไก่ปั่นเองไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้กล้ามเนื้อโตได้ สิ่งที่จะทำให้กล้ามเนื้อของคุณโตได้จริงๆคือตัวคุณเอง ตัวคุณที่พร้อมจะลงมือทำให้มันเกิดขึ้นเป็นจริงหรือไม่ ส่วนไก่ปั่นเป็นเพียงปัจจัยเรื่องการกินเท่านั้นเอง สำหรับผมแล้ว การประกวดกล้ามในปีหน้าจะต้องเป็นจริงแน่นอน และไก่ปั่นก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่ผมเลือก
สามารถติดตาม อาฉี ลายตะขาบ ได้ที่ >> facebook.com/cheebola