ในบทความนี้ได้นำผลการศึกษาวิจัยที่พึ่งตีพิมพ์ไปในปี 2015 นี้เอง
เริ่มแรกการทดลองได้แบ่งอาสาสมัครออกเป็นสองกลุ่ม
กลุ่มที่กินโปรตีนในปริมาณ 2.3 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg
กลุ่มที่กินโปรตีนในปริมาณ 3.4 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg
พบว่าระหว่างโปรตีน 2.3 g/ นน ตัว 1 kg เพิ่มกล้ามเนื้อไม่ต่างจากกลุ่มโปรตีน 3.4 g/1 kg
อันนี้คือปริมาณสารอาหารทั้งหมดระหว่างของทั้งสองกลุ่ม
กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | |
คาร์บ | 2.7 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg | 3.1 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg |
โปรตีน | 2.3 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg | 3.4 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg |
ไขมัน | 1.0 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg | 1.1 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg |
จะเห็นว่ากลุ่มที่ 1 นั้นปริมาณสารอาหารอย่างคาร์บและโปรตีนจะน้อยกว่ากลุ่มที่ 2 ดังนั้นแคลอรี่โดยรวมของกลุ่มที่ 1 นั้นน้อยกว่ากลุ่มที่ 2 ไปด้วย
หลายคนอาจจะมีความคิดว่าการกินโปรตีนในปริมาณที่มากขึ้นจะยิ่งดีต่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แต่จากการทดลองนี้พบว่ากลุ่มที่ 1 ที่ได้รับคาร์บและโปรตีนน้อยกว่า (แต่ก็ยังอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับเสริมสร้างกล้ามเนื้อ) พบว่าทั้งสองกลุ่มมีปริมาณมวลไร้ไขมัน (ในงานวิจัยเรียก fat free mass ซึ่งบางคนเรียกว่า lean body mass) เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.5 kg
โดยปกติแล้ว สำหรับคนที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อจะแนะนำให้กินโปรตีน 1 g ต่อน้ำหนักตัว 1 lb เมื่อคิดเทียบกลับเป็นหน่วย kg แล้วจะเท่ากับว่าต้องกินโปรตีนขั้นต่ำ 2.2 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg ดังนั้นการทดลองนี้กินโปรตีนมากกว่าปริมาณแนะนำสำหรับเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แต่ผลจากงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการกินมากขึ้นจาก 2.3 ไปเป็น 3.4 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg นั้นไม่ได้ทำให้เพิ่มมวลไร้ไขมันมากกว่า
สรุป
- กินโปรตีนให้มากเพียงพอในช่วงที่แนะนำสำหรับเสริมสร้างกล้ามเนื้อ (2 g ต่อน้ำหนักตัว 1 kg) ก็ได้ผลดี
- การกินโปรตีนมากกว่านี้ก็ไม่ได้จำเป็นว่าจะได้ผลดีเพิ่มมากขึ้น
หากมีงานวิจัยใหม่ๆ ในเรื่องนี้อีก ทาง P4F จะอัพเดทให้เรื่อยๆ ครับ
อ้างอิง
Antonio J, Peacock CA, Ellerbroek A, Fromhoff B, Silver T. The effects of consuming a high protein diet (4.4 g/kg/d) on body composition in resistance-trained individuals. J Int Soc Sports Nutr. 2014;11:19.