หลายคนอาจจะเคยได้ยิน cheat meal/ cheat day กันมาบ้างแล้ว ในบทความนี้จะมาอธิบายให้เข้าใจชัดขึ้นว่าคำเหล่านี้หมายความว่ายังไงและทำยังไง
Cheat meal คืออะไร
ตามตรงคือมื้อโกง (บางคนเรียกหลุด) การไดเอทเพื่อการลดน้ำหนักและไขมันนั้นจะมีการตัดสารอาหารให้น้อยลง บางคนอาจจะกินคลีนมากขึ้นและลดพวกขนมลง (บางคนตัดไปเลยก็มี) ซึ่งการทำเช่นนั้นจะทำให้เกิดความเครียดขึ้น ส่วนนึงเพราะแต่ก่อนเคยกินอาหารมากกว่านี้, เคยกินขนมที่ชอบ แต่พอเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักและไขมันก็ตัดพวกนี้ออกไป
การ cheat meal/cheat day คือการที่มื้อนึง (กรณี cheat meal) หรือวันนึง (กรณี cheat day) จะได้กินอาหารที่แตกต่างจากวันอื่นๆ ที่ทำการไดเอทลดน้ำหนัก อาจจะกินเยอะกว่าเดิมหรือกินอาหารที่ชอบ (เช่น ขนม)
จากการศึกษาพบว่าการคุมอาหารแบบที่มีการหลุดบ้าง โกงบ้างได้ผลดีกว่า
(บทความเต็ม: http://goo.gl/s5sVfg)
โดยการคุมอาหารสำหรับการลดน้ำหนักและไขมันนั้นจะทำให้ระดับการเผาผลาญตกลงเรื่อยๆ ดังนั้นหากมี cheat meal/cheat day ก็จะช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญไม่ให้ตกลงมากได้ ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นผลดีต่อการลดน้ำหนัก
ทำอย่างไร
ปัญหาที่พบบ่อยคือหลายคนใช้ cheat meal/cheat day ผิดไป คือหลายคนรู้ว่ามันดีแต่ใช้ไม่ถูกเวลา (หรือใช้เยอะเกินไป) จนทำให้การลดน้ำหนักและไขมันนั้นไม่เป็นผล
บางคนตัดพลังงานลงวันละ 500 Kcal (ทั้งจากลดอาหารและเพิ่มคาร์ดิโอ) เป็นเวลา 5 วัน (อีกหนึ่งวันไม่ได้ออกกำลังกาย) ซึ่งรวมแล้วทำให้แคลอรี่ติดลบไป 2500 Kcal แต่วันที่ไป cheat meal/cheat day กินแคลอรี่เกินไปเยอะมาก 3000 Kcal (โดยเน้นไปที่ขนม น้ำหวาน) สุดท้ายแล้วคือทั้งสัปดาห์แคลอรี่เกินไป 500 Kcal จึงเป็นปัญหาว่าทำไมน้ำหนักไม่ลดและอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ
จากการทดลองข้างต้น กลุ่มที่มีมื้อหลุดนั้นไม่ได้กินเยอะจนเกินไป เพียงแต่กินให้เท่ากับระดับ TDEE หรือมากกว่า 10% ก็เพียงพอแล้ว
(บทความเกี่ยวกับ TDEE: http://goo.gl/oYbMYy)
ทำบ่อยแค่ไหน
ข้อผิดพลาดที่เจอบ่อยคือทำการหลุดบ่อยมากเช่นทุกสัปดาห์จนสุทธิแล้วพลังงานโดยรวมต่อเดือนนั้นเกินกว่า TDEE นั่นก็หมายความว่าล้มเหลวในการลดน้ำหนักและไขมัน
บางคนก็ทำบ่อยเกินไป ถึงแคลอรี่โดยรวมทั้งเดือนไม่เกินแต่ก็กลายเป็นว่าพลังงานติดลบไม่มากก็กลายเป็นพัฒนาการในการลดน้ำหนักและไขมันนั้นเป็นไปอย่างช้าๆ
จากงานวิจัยข้างต้นพบว่าทำทุกๆ 11 วันก็ยังได้ผลต่อการลดน้ำหนักและไขมัน แต่เพื่อให้ลงล๊อคตารางเวลาในสัปดาห์ซึ่งส่วนมากนิยมไปพักผ่อนกันวันอาทิตย์ ดังนั้นเพื่อความง่ายและสะดวกก็เลือกเป็นทุกๆ 14 วัน หรือสองสัปดาห์ก็ลงตัวดี
สรุปแนวทาง
1.จัดตาราง cheat day/ cheat meal ทุกๆ 14 วัน
2.วันที่หลุดให้กลับไปกินเท่ากับ TDEE หรือ 110% ของ TDEE ต้องมีการคำนึงถึงปริมาณอาหาร