แผนฟิต พิชิตไขมัน โดยโค้ชปืน

หลัง จากพักการแข่งมาประมาณ ​2 ปี เข้าโปรแกรมออฟซีซั่นเพื่อเพิ่มน้ำหนัก เพื่มน้ำหนักมาสักระยะหนึ่ง  แต่ก็ปล่อยให้ Bodyfat ของตัวเองเพิ่มขึ้นไปถึง 15% ที่น้ำหนักตัว 115  กิโลกรัม  ก่อนที่จะค่อยๆคุมน้ำหนักลงมาถึง 111 – 112 กิโลกรัม  เลยตัดสินใจลดไขมันจริงๆจังๆให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและดีที่สุดก็คือ ประมาณ​ 10% และนี่คือการวางแผนของผมตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงสิ้นสุดโปรแกรม

Pre-diet Pharisee 

เป็น ช่วงที่เราจะเปลี่ยนจากภาวะ off-season เป็นช่วง Cut  หรือ Diet ทั้งนี้เราควรทราบว่าในช่วง off-season  เรากินอะไรเท่าไหร่  พลังงาน,​โปรตีน,คาร์บ,ไขมัน เท่าไหร่  ซึ่งช่วง off-season ผมกินอยู่ที่ประมาณ 4500 – 5000 แคลลอรี่ต่อวัน  ปริมาณโปรตีน 300 – 320 กรัม, คาร์บ 400 – 500 กรัม, ไขมันประมาณ 100 กรัม

และ ที่สำคัญคือไม่คลีน  ยิ่งช่วงหลังๆเหนื่อย,เครียดบ้าง ก็มีกินเละเทะตามใจตัวเองมากหน่อย ไม่งั้นคงไม่ปล่อยให้เปอร์เซ็ตไขมันขึ้นไปถึง 15% แบบนี้แน่ๆ

เรียนรู้จากข้อมูลที่มี….

ผม ชอบที่จะปรับเปลี่ยนอะไรจากข้อมูลที่มีอยู่ ผมมักจะรู้เสมอ และบันทึกคร่าวๆในสิ่งที่ผมคิดว่าควรต้องรู้  ผมเรียกมันว่าการ Monitor  เหมือนเรากำลังขับรถอยู่แล้วมีหน้าปัทต่างๆคอยบอกนั่น บอกนี่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นความเร็วรอบเครื่องยนต์ ระดับน้ำมัน ความร้อน และที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องดูมันตลอดเวลา  และเมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องใช้มัน เราจะต้องรู้

ถึง จะปล่อยปะละเลยเรื่องการคุมอาหาร และแทบจะไม่ได้ทำคาร์ดิโอเลย แต่ผมก็ยังชั่งน้ำหนักและพยายมสังเกตุเปอร์เซ็นต์ไขมันของตัวเอง  แต่ก็นะ ทั้งๆที่รู้ผมก็ยังปล่อยให้มันเลยผ่านไปเลข 12-12 ไปจนเตะ 15 เปอร์เซ็นต์

4

รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่มี เพื่อนมาประมบลผล

น้ำหนัก ตัวเริ่มต้นที่ 110-111 กิโลกรัม สวิงอยู่ระดับนี้  ผมเริ่มจากคำนวนหาสิ่งที่ผมต้องใช้ในการจัดโปรแกรมไดเอท ซึ่งที่ผมใช้มีดังนี้

1. น้ำหนักตัวตั้งร้น (น้ำหนัตัวปัจจุบัน) 110 กิโกกรัม

2. เปอร์เซ็นต์ไขมัน  วัดด้วยคาลิปเปอร์ โดยวัด 7 จุด  ได้ที่ 15%

3. พลังงานตั้งต้นที่กินอยู่ 4000 – 4500 แคลลอรี่ต่อวัน

4. เปอร์เซ็นต์ขไมันเป้าหมาย คือ 10%

3

ในตอนต่อไปผมจะบอก ถึงการวางแผนโปรแกรมการไดเอท  รวมถึงแผนการกิน ออกกำลังกาย  และที่สำคัญคือผลที่ได้จากการไดเอทครั้งนี้ รวมถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างการไดเอท

(Visited 395 times, 1 visits today)

Last modified: May 8, 2019