3 สูตรลดน้ำหนักที่ผิด

2

หลักสำคัญในการลดน้ำหนักและไขมันที่ควรจะยึดให้ขึ้นใจคือ พลังงานที่กิน < พลังงานที่ใช้

ซึ่งการที่จะทำให้เกิดภาวะดังกล่าวได้นั้นมี 2 วิธี

ลดพลังงานที่กิน โดย เริ่มจากคำนวณสารอาหารที่ทำให้น้ำหนักตัวคงที่ก่อน (maintenence) แล้วลดปริมาณสารอาหารโดยเฉพาะปริมาณคาร์บออกจาก maintenence นั้นก็จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการเลยทำให้ร่าง กายต้องดึงเอาพลังงานที่สะสมในร่างกายมาใช้ทดแทน

เพิ่มการใช้พลังงาน โดยเพิ่มการเวทเทรนนิ่งเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และการคาร์ดิโอเพื่อเพิ่มสัดส่วนของพลังงานที่ร่างกายต้องใช้ไปในช่วงคาร์ดิโอ

แต่หลายๆ คนก็พยายามจะหาสูตรลัด ซึ่งหลายๆ ครั้งมักจะไม่ครอบคลุมต่อหลักการลดน้ำหนักและไขมันซักเท่าไร เรามาดูสูตรลดน้ำหนักที่ผิดๆ กัน

ไม่ทานอาหารมื้อเย็น

แน่นอนว่าการไม่ ทานอาหารมื้อเย็นจะเป็นการลดพลังงานที่กินลง แต่ถ้าการลดอาหารมื้อเย็นนั้นไม่ได้ทำให้เกิดภาวะ พลังงานที่กิน < พลังงานที่ใช้แล้วก็มันก็ไม่ได้ช่วยทำให้ลดน้ำหนักได้ หลายๆ ครั้งกลายเป็นหิวจัดเลยนอนไม่หลับเลยต้องหลุดกินอาหารเกินความต้องการของ ร่างกายไปอีก

ในขณะที่การลด แบบที่ถูกวิธีนั้นเมื่อคำนวณและวางแผนดีๆ แล้วไม่จำเป็นต้องอดข้าวเย็นก็ทำให้เกิดภาวะ พลังงานที่กิน < พลังงานที่ใช้ ได้

ทางแก้: คำนวณสารอาหารที่ต้องการต่อวันให้เหมาะสม, ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ

ทานผลไม้แทนอาหาร

ผลไม้ไม่ใช่ว่า ไม่อ้วน เพราะผลไม้ก็มีคาร์บเหมือนกัน ตราบใดที่ทานผลไม้แต่แคลอรี่ที่ได้จากคาร์บในผลไม้มันเกิดความต้องการของ ร่างกายนั้นละก็คงไม่สามารถลดน้ำหนักได้แถมจะเพิ่มน้ำหนักด้วยซ้ำ

ทางแก้: ผลไม้ทานได้ แต่เหมือนเดิมคือดูปริมาณสารอาหารที่ได้ด้วย

กินขนมและอาหารตอนเช้าแล้วจะไม่อ้วน

มีความเชื่อ ประเภทกินทุเรียน, กินเค้ก ช่วงก่อน 9 โมงแล้วจะไม่อ้วน ซึ่งไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันเลย ตราบใดที่ทานของพวกนี้แล้วไม่ดูแคลอรี่ที่ได้ ถ้าแคลอรี่ตรงนั้นมันเกิดความต้องการของร่างกายนั้นละก็คงไม่สามารถลด น้ำหนักได้แถมจะเพิ่มน้ำหนักด้วยซ้ำ

ทางแก้: ไม่มีสูตรลับอะไรที่กินแล้วไม่อ้วน ควรคำนวณสารอาหารให้ดี ยึดหลัก พลังงานที่กิน < พลังงานที่ใช้

(Visited 232 times, 1 visits today)

Last modified: May 10, 2019