1.ศึกษาหาข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
ความรู้และข้อมูลนั้นดูเหมือนจะเป็นขุมทรัพย์อันมีค่าในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเนื่องจากเป็นที่ทราบดีว่าการฝึกเพื่อพัฒนารูปร่างนั้นมีปัจจัยหลายๆอย่างมากมายและมีขั้นตอนที่ซับซ้อมและเป็นปัจเจกในแต่ละบุคคลมากดังนั้นการศึกษาหาข้อมูลอยู่เสมอนั้นจะทำให้เรา“รู้จักปัญหาก่อนที่จะพบมันเสียอีก” และเมื่อเราต้องเผชิญกับปัญหาเราก็จะสามารถที่จะควบคุมหรือพอจะทราบแนวทางในการจัดการกับปัญหานั้นๆได้อย่างดีและถูกต้อง
2.ลงมือปฏิบัติทดลองและทดลอง
ถ้าโปรแกรมเวทเทรนนิ่งที่ดีที่สุดจะใช้ได้ผลกับทุกคนทุกครั้งตอนนี้คงมีคนที่หุ่นดีเดินทั่วไปแล้วหนึ่งทฤษฎีอาจเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอาจถูกหรือผิดกับผู้ฝึกคนหนึ่งเราจะทราบได้ต่อเมื่อเราได้ทดลองทำมันอย่างถูกต้องแล้วเท่านั้นอย่ากลัวที่จะเปลี่ยนหรือทดลองอะไรใหม่ๆอย่างมีเหตุผลกอปรกับขั้นต้นที่เราได้ศึกษาหาข้อมูลมาอย่างดีแล้วการได้ลงมือทดลองและปฏิบัติตามแนวคิดทฤษฎีใดๆอย่างถูกต้องเพื่อค้นหาคำตอบและ“ประสบการณ์”ในการฝึกนั้นๆให้กับเรา
3.ใจเย็นให้เวลากับร่างกายบ้าง
อย่าใจร้อนรีบด่วนตัดสินใจหากได้ทดลองโปรแกรมอะไรสักโปรแกรมให้เวลาศึกษาแนวคิดทฤษฎีของโปรแกรมฝึกนั้นๆอย่างถี่ถ้วนทำให้ถูกและไตร่ตรองดูว่าโปรแกรมนี้ให้อะไรกับการฝึกแม้ในที่สุดเราพบว่าโปรแกรมนี้อาจไม่เหมาะสำหรับเราแต่เราก็ทราบเมื่อได้ลองอย่างครบโปรแกรมแล้วว่าแนวคิดของโปรแกรมนี้คืออะไรอย่างน้อยๆควรให้เวลากับโปรแกรมฝึกหนึ่งๆไม่ต่ำกว่า 8-12สัปดาห์ก่อนจะสรุปว่าโปรแกรมนั้นๆเหมาะสมหรือไม่
4.อย่าแค่“ฟัง”ร่างกายตัวเอง“วัดผล”ไปด้วย
โปรแกรมการฝึกบางอย่างอาจทำให้ผู้ฝึกรู้สึกดีหรือชอบในแนวคิดและรูปแบบการฝึกแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัจจัยที่จะตัดสินว่าโปรแกรมนั้นเหมาะกับผู้ฝึกที่สุดบางครั้งการ“ฟังร่างกาย”มากเกินไปก็อาจทำให้ถูกลวงให้พลาดจากเป้าหมายได้ร่างกายมักจะ“ชอบ”โปรแกรมที่ถนัดง่ายและสบายกว่าโปรแกรมที่“โหด”หรือ“ไม่ถนัด”ดังนั้นการวัดผลนั้นดูสมเหตุสมผลกว่าในการชี้วัดว่าโปรแกรมนี้เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมแม้จะผ่านการฝึกโดยที่ไม่รู้สึกว่าชอบหรือรู้สึกดีแต่หากโปรแกรมนั้นๆทำให้เราพัฒนาได้มันก็คุ้มค่าที่จะฝึก
5.อาจจะใช่แต่ไม่ตลอดไป
โปรแกรมฝึกที่เคยได้ผลนั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องได้ผลดีเสมอไปร่างกายมีการปรับตัวตลอดเวลาในขณะที่การปรับโปรแกรมแทบจะไม่มีทำให้ผู้ฝึกประหลาดใจกับความมหัศจรรย์ของร่างกายในการปรับตัวต่อสิ่งเร้าต่างๆดังนั้นอย่ายึดติดกับอะไรที่เคยได้ผลมากเกินไปเช่นกันโปรแกรมที่เคยไม่ได้ผลอาจจะให้ผลดีเมื่อนำมาใช้ถูกช่วงเวลาที่เหมาะสมก็เป็นได้
6.ออกไปฝึกกับเพื่อนๆหรือบัดดี้บ้าง
สำหรับผู้ฝึกที่ฝึกคนเดียวลองหาโอกาสดีๆที่จะได้ลองฝึกกับเพื่อนๆฝึกกับบัดดี้บ้างลองให้เพื่อนเลือกนน.ให้เรายกบ้างเราจะพบว่าจริงๆแล้วเราอาจจะยกได้หนักกว่าที่เราเคยยกก็ได้บรรยากาศที่ดีที่น่าสนุกอาจทำให้โปรแกรมในวันนั้นๆตื่นเต้นและน่าสนใจอีกทั้งเป็นโอกาสดีที่จะได้ลองตามโปรแกรมการฝึกของเพื่อนหรือบัดดี้เราอาจจะได้อะไรใหม่ๆเพื่อพัฒนาการฝึกของเราเองอีกทั้งยังมีคนช่วยเซฟและสังเกตท่าฝึกของเราด้วยเพื่อจะเป็นประโยชน์ของเราในการนำสิ่งเหล่านั้นมาใช้เมื่อตอนฝึกเอง