ยาลดน้ำหนักอันตรายกว่าที่คิด !!

ยาลดน้ำหนัก หรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยในการลดน้ำหนัก หรือ ตัวช่วยลดน้ำหนัก
คำเหล่านี้เป็นนิยามใช้อธิบายสินค้าตระกูลเม็ด ๆ หรือซองผงชงน้ำดื่ม ที่อ้างว่า “ช่วยในการลดน้ำหนักได้” ซึ่งตามข้อมูลทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ก็ชี้ให้เห็นมากมายแล้วว่า “เลิกงมงายสักที” กับการอยากทดลองซื้อเม็ดยาเหล่านี้มากินแล้วผอมลง มีก็แต่เสี่ยงชีวิตไปกับสารเคมีเท่านั้น หากยังไม่กระจ่าง วันนี้เรามาไขข้องใจนี้กันครับ

สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าช่วยลดน้ำหนักนี้อาศัยความรู้สึกอยากผอมของใครหลายคนมาเป็นจุดอ่อนในการกระตุ้นให้ซื้อใช้ ซึ่งกลายเป็น “วิธีการลดน้ำหนักที่ไม่ควรเกิดขึ้น” กระนั้นก็มีคนที่รู้สึกอยากผอมแบบทางลัดที่จะซื้อหาผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาใช้อยู่ดี ใช่หรือไม่?
มาดูกันดีกว่ากลไกอะไรบ้างที่มักเอามาใช้ในกระบวนการลดน้ำหนักบ้าง


กดความหิว
สารเคมีกลุ่มนี้ได้แก่ Phentermine,Salbutamol และ Sibutramine โดยสารกลุ่มนี้จะกดศูนย์ควบคุมความหิวอิ่มของสมอง ทำให้ไม่อยากอาหาร เป็นฤทธิ์เด่นโดยตรงที่ได้รับความนิยมแต่จะมีผลข้างเคียงต่อจิตประสาท นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงต่อการเต้นของหัวใจซึ่งอันตรายถึงชีวิต ซึ่งยากลุ่มนี้แม้เคยใช้งานเพื่อลดน้ำหนักคนไข้ โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ปัจจุบันก็มีทางเลือกต่าง ๆ ที่ใช้เพื่อช่วยให้คนไข้ลดน้ำหนักได้อีกมากมาย และปลอดภัยต่อชีวิตมากกว่า


เบียดบังพื้นที่ในกระเพาะอาหาร ให้อิ่มท้องไวขึ้น = กินอาหารหลักน้อยลง
ส่วนใหญ่มักเป็นสารหรือส่วนประกอบตามธรรมชาติ นิยมเป็นใยอาหารละลายน้ำชงดื่มหรือเม็ดใยอาหารแบบกินก่อนอาหาร เพื่อให้ไปขยายตัวในกระเพาะอาหารและเบียดบังพื้นที่ในกระเพาะทำให้อิ่มอาหารเร็วขึ้นและกินอาหารปกติลดลง ทำให้ได้รับพลังงานจากอาหารลดลงได้ส่งผลให้ลดน้ำหนักลงได้แบบช้า ๆ วิธีนี้เหมือนไม่มีผลข้างเคียง แต่ที่จริงแล้วก็ไม่แตกต่างกัน หากดื่มน้ำในปริมาณน้อยเกินไปจะมีโอกาสที่ก้อนใยอาหารนี้ “อุดตัน” ภายในทางเดินอาหาร และส่งผลฉับพลันต่อลำไส้รวมทั้งใยอาหารนี้มาจากการผลิตหรือสกัดแยก เหตุใดเราจำเป็นต้องกินผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทั้งที่เรากินข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ ก็ให้ผลไม่แตกต่างกัน


ขับปัสสาวะ เร่งระบายอุจจาระ
ออกฤทธิ์กระตุ้นลำไส้ใหญ่ให้บีบตัวทำให้รู้สึกอยากถ่ายมากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าน้ำหนักลดลงจากการขับถ่าย แท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงน้ำหนักของอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ใช่ตัวเลขของไขมันหรือสิ่งที่เราอยากกำจัดแต่อย่างใด
ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ยาระบายในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการถ่ายท้องมากหรือบ่อยจนร่างกายสูญเสียสมดุลของน้ำและเกลือแร่ซึ่งเป็นอันตรายได้
ในระยะยาวนั้น การใช้ยาระบายติดต่อกันนาน ๆ จะทำให้ร่างกายทนต่อยาเพิ่มขึ้น กล่าวคือ หากใช้ยาในขนาดเท่าเดิมจะให้ผลการรักษาลดลงอีกทั้งยังต้องการผลการรักษาเช่นเดิมจึงทำให้ต้องเพิ่มขนาดยามากขึ้น ดังนั้นยานี้จึงไม่ควรนำมาใช้ในการลดความอ้วนแต่อย่างใด

ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์หรือน้ำย่อยอาหารบางชนิด
เมื่ออาหารถูกรับประทานเข้าไปแล้ว ถ้าเรายับยั้งการย่อยและปล่อยให้อาหารถูกขับทิ้งไปทางอุจจาระก็น่าจะทำให้ผอมลงได้? นี่คือแนวคิดของวิธีนี้ ซึ่งจริงอยู่ว่าปัจจุบันเรามียายับยั้บการย่อยคาร์โบไฮเดรตและไขมันแล้ว แต่ผลที่เกิดขึ้นคือ
น้ำหนักไม่ได้ลดลงนอกเสียจากผลข้างเคียงของการใช้ยาเหล่านี้ทำให้คนใช้ยายอมกินน้อยลงด้วยตนเอง เพราะทนผลข้างเคียงไม่ได้ เช่น ยาบล๊อกไขมันไม่ให้ย่อยจะต้องเจอกับสภาวะ “ถ่ายเป็นน้ำมันลอย” และเกิดอณูน้ำมันรั่วไหลออกมาแบบกลั้นไม่ได้ เป็นต้น
หากใช้ยานี้ในระยะยาวจะเพิ่มความเสี่ยงในการขาดสารอาหารบางประเภทที่ละลายในไขมันได้ เช่น วิตามิน เอ ดี อี เค และ สารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ


เร่งการเบิร์น กระตุ้นการเผาผลาญ
เป็นได้ตั้งแต่สารเคมีกลุ่มกระตุ้นทั่วไปยันฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งต้องห้ามในการใช้เพื่อลดน้ำหนักเพราะเสี่ยงตายหรืออันตรายมาก ยิ่งไปกว่านั้นพวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่กล่าวอ้างว่าช่วยให้เผาผลาญดีขึ้นความเป็นจริงคือสารที่ว่านี้ไม่มีอยู่จริงและต่อให้มีฤทธิ์อยู่บ้าง
แต่ผลก็ไม่ได้ทำให้ผอมลงเร็วหรือลดน้ำหนักได้อย่างเห็นได้ชัด แต่ต้องแลกมากับความเสี่ยงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น

เจอขนาดนี้แล้ว เราควรทำอะไรเพื่อสุขภาพตนเองดี ?

1. ให้ถามตัวเองว่าเป้าหมายที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง (คำยอดฮิต) คืออะไรกันแน่? แค่อยากมีสุขภาพที่ดีขึ้น หรือ แข็งแรงออกกำลังได้ต่อเนื่องมากกว่าก่อน หรือ อยากเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้เป็นไปดั่งใจอยากกันแน่ เพราะทุกเป้าหมายมีหนทางที่แตกต่างกัน


2. เช็คนิสัยการกินของตัวเองแบบง่าย ๆ ว่าในหนึ่งวันรับประทานอะไรบ้าง? กินอะไรบ่อยแค่ไหนหรือมีพฤติกรรมการกินอย่างไร? ชอบอาหารอะไรหรือได้กินอะไรบ่อย ๆ? และจะจัดอย่างไรได้บ้างดี


3. หาวิธีออกกำลังกายที่เราชอบ หลงไหล หรือ ทำในระยะเวลานานโดยที่ไม่รู้สึกเบื่อได้ง่าย เพราะมันต้องอยู่กับเราไปตลอดและเราควรออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ

ท้ายที่สุดแล้ว
เราก็ตอบได้ว่า “การมีสุขภาพดี คือคำตอบที่สุดของสุขภาพของเราและทุกคน” ฉะนั้นเราจะใฝ่หาหนทางที่ทำร้ายตัวเอง อย่างการใช้อาหารเสริมแบบแปลก ๆ หรือออกกำลังกายตามสูตรที่เคร่งครัด
ในวันหนึ่งเราก็จะมีการอะลุ่มอล่วยให้ตัวเองอยู่ดี จึงควรหาหนทางการใช้ชีวิตที่สมดุลที่สุด ดูแลสุขภาพ และ จิตใจเบิกบานด้วย

(Visited 2,208 times, 1 visits today)

Last modified: July 10, 2019