คุมอาหาร vs เบิร์น แบบไหนลดไขมันได้ดีกว่ากัน

234_burn_p

 

จากที่เราทราบแล้วว่าการลดไขมัน 1 kg นั้นต้องทำให้พลังงานติดลบประมาณ 7,000 Kcal ซึ่งการที่จะทำให้พลังงานติดลบนั้นสามารถทำได้ทั้ง

  • การคาร์ดิโอเพื่อเพิ่ม Cal out
  • การคุมอาหารให้น้อยลง (ลด Cal in)
  • ทำทั้งสองอย่างข้างต้นพร้อมกัน

 

การคาร์ดิโออย่างเดียวนั้นเผาผลาญแคลอรี่ได้น้อย

อันนี้แล้วแต่ประเภทและความเข้มข้นของการคาร์ดิโอ แต่ค่าเฉลี่ยจะอยู่ราวๆ ที่ 6-8 Kcal/นาที ดังนั้นการเริ่มทำคาร์ดิโอ 5 วัน วันละ 30 นาทีจะทำให้เกิดการใช้พลังงานราว 900-1,200 Kcal ต่อสัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าการคาร์ดิโอในระดับนี้ต้องใช้เวลาราว 6-8 สัปดาห์ในการลดไขมัน 1 kg

 

ถ้าเพิ่มเป็นคาร์ดิโอ 5 วัน วันละ 60 นาทีจะทำให้เกิดการใช้พลังงานราว 1,800-2,400 Kcal ต่อสัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าการคาร์ดิโอในระดับนี้ต้องใช้เวลาราว 3-4 สัปดาห์ในการลดไขมัน 1 kg

 

ซึ่งตรงนี้คือข้อผิดพลาดและเข้าใจผิดของคนที่จะลดไขมันด้วยการคาร์ดิโออย่างเดียว เพราะหลายคนไม่ได้คาร์ดิโอเยอะในระดับที่คำนวณในข้างต้น ซึ่งถ้าคาร์ดิโอน้อยกว่านั้นก็ยิ่งจะเห็นผลช้ากว่าที่คำนวณได้ข้างบน อีกอย่างนึงหลายคนคาดหวังว่าจะลดเร็วๆ แต่ไม่รู้ว่าการลดไขมันเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน

 

การคุมอาหารอย่างเดียวนั้นทำให้แคลอรี่ติดลบได้เยอะกว่า แต่ลดไขมันได้ไม่ค่อยดี

หลายคนไม่อยากคาร์ดิโอเพราะเหนื่อยเลยคิดถึงการคุมอาหารอย่างเดียว ซึ่งการคุมอาหารทำให้เกิดส่วนต่างแคลอรี่ได้ง่ายกว่ามาก สมมติว่าร่างกายต้องการพลังงานวันละ 2,000 Kcal (ทั้งนี้ปริมาณสัดส่วนสารอาหารแต่ละอย่างต้องเหมาะสมด้วย) การที่จะลดเหลือวันละ 1,700 Kcal นั้นทำให้พลังงานติดลบวันละ 300 Kcal คิดเป็นสัปดาห์ละ 2,100 Kcal ซึ่งในเชิงตัวเลขแล้วใกล้เคียงกับการคาร์ดิโอ 5 วันวันละ 60 นาทีเลย

 

แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจจะพบว่าระยะยาวๆ แล้ว น้ำหนักและไขมันนั้นกลับไม่ค่อยลด (อาจจะลดช่วงแรกและกลับมาเพิ่มขึ้น) อันนี้เนื่องจากว่าส่วนมากคนทั่วไปมักมีภาวะระบบเผาผลาญพังแบบไม่รู้ตัว เมื่อมาลดสารอาหารลงไปอีกก็ยิ่งทำให้พังหนักและน้ำหนักจะค่อยๆ ตันและเพิ่มทะลุสถิติเดิม

 

จากประสบการณ์ของคนที่ทำตามโปรแกรมของ P4F แบบจริงจัง ในช่วงแรกของการลดน้ำหนักมักถูกบังคับให้กินอาหารมากกว่าเดิมที่เคยกินมาก แต่กลับกลายเป็นว่าสามารถลดน้ำหนักได้ (ทั้งที่กินมากกว่าเดิม) อันนี้เนื่องจากได้รับสารอาหารให้ระดับที่ร่างกายต้องการจริงๆ ทำให้ระบบการเผาผลาญกลับมาเป็นปกติและเริ่มที่จะเผาผลาญไขมันได้

 

นอกจากนี้การลดอาหารลง สิ่งนี้ที่จะตามมาคือความหิว ทำให้เกิดอาการอยากกินซึ่งอาจจะมากจนถึงขั้นหลุดได้ ตรงนี้จะทำให้เกิดแคลอรี่ส่วนเกินขึ้นมาและทำให้ไม่สามารถลดน้ำหนักและไขมันไดเ

 

ทางสายกลางดีที่สุด

การทำทั้งสองอย่างควบคู่กันนั้นจะทำให้ไม่ต้องลดอาหารมาก และไม่ต้องคาร์ดิโอมากเกินความจำเป็น

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระบบการเผาผลาญพัง http://goo.gl/W4Idnw

 

FF20%
pt_banner

(Visited 644 times, 1 visits today)

Last modified: May 10, 2019