หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำแนะนำสำหรับการลดน้ำหนักและไขมันที่ว่า
“หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น”
หรือคำแนะนำอื่นๆ ที่คล้ายๆ กัน เช่นห้ามกินข้าวตอนเย็น (กินแต่กับได้) หรือบางคนงดข้าวเย็นไปเลย
หรือบางคนเวลาหยิบอะไรทานตอนกลางคืนก็อาจมีคนทักว่า “กินตอนนี้ไม่กลัวอ้วนเหรอ?”
ถ้าสารอาหารและแคลอรี่ทั้งวันนั้นเกินกว่าที่ร่างกายใช้ไปยังไงก็อ้วน
ต่อให้เราทำตามคำแนะนำหนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น แต่การหนักเช้าและเบาเที่ยงนั้นกลับกินสารอาหารเยอะมากๆ เยอะมากกว่าที่ร่างกายใช้ทั้งวันก็จะเกิดแคลอรี่ส่วนเกินซึ่งร่างกายก็เอาไปสะสมเป็นไขมันได้อยู่ดี
ถ้าสารอาหารและแคลอรี่ทั้งวันนั้นน้อยกว่าที่ร่างกายใช้ไปยังไงก็ลดน้ำหนักและไขมันได้
ถ้าเราบริหารจัดการสารอาหารที่ได้รับต่อวันอย่างดีโดยให้ได้รับน้อยกว่าที่ร่างกายใช้ไป ต่อให้เราจะกินมื้อดึกแค่ไหน จะเน้นอาหารมาตอนเย็นก็ไม่ทำให้อ้วนและอาจจะทำให้น้ำหนักและไขมันลดได้ด้วยซ้ำ
อย่าลืมว่าปัจจัยหลักคือสมดุลแคลอรี่
ถ้า Cal in = Cal out ก็สามารถคงน้ำหนักได้
ถ้า Cal in < Cal out ก็ทำให้ร่างกายต้องดึงพลังงานที่สะสมมาใช้จึงทำให้ลดไขมันสะสมได้
ถ้า Cal in > Cal out ก็ทำให้เกิดพลังงานส่วนเกินที่ร่างกายจะสะสมในรูปไขมันต่อไป
ต่อให้สูตรลดน้ำหนักจะดูน่าคล้อยตามแค่ไหน มีทริกเยอะแค่ไหน แต่ถ้าทริกนั้นขัดต่อปัจจัยสมดุลแคลอรี่ก็ไม่ได้ผล เพราะต่อให้เป็นทริกที่ช่วยให้เผาผลาญแคลอรี่ได้มากๆ แต่ถ้ากินมากกว่าก็หักล้างกันไปแถมยังจะอ้วนขึ้นด้วยซ้ำ
ทริกง่ายๆ สำหรับคนที่รู้ตัวว่าจะไปกินบุฟเฟ่ต์แต่ยังคุมสารอาหารได้อยู่
ตามที่กล่าวข้างบน ให้พยายามมองภาพรวมทั้งวัน ถ้าเรารู้ว่าตอนเย็นเราจะไปกินบุฟเฟต์หรือขนมกับเพื่อนๆ เราก็สามารถเตรียมตัวจำกัดอาหารในช่วงเช้าไว้ก่อน เช่นถ้าเรารู้ว่าเราจะไปฉลองหมูกระทะแล้วต่อด้วยไอศครีม เราก็ลดปริมาณโปรตีน, คาร์บ, และไขมันในช่วงเช้าไปก่อน
เช่น ยกตัวอย่างช่วงลดน้ำหนักของนายเอควรกินคาร์บ 200 g, โปรตีน 150 g และไขมัน 50 g
ปกติ มื้อเช้าและเที่ยงรวมแล้วได้คาร์บ 120 g, โปรตีน 80 g, ไขมัน 20 g
ดังนั้นจะเหลือโควต้าอาหารที่กินได้แล้วยังลดน้ำหนักได้คือ
คาร์บ 80 g, โปรตีน 70 g และ ไขมัน 30 g
ซึ่งถ้ามองว่าไปกินแล้วรู้สึกไม่คุ้ม นายเอควรจะวางแผนใหม่โดย
ช่วงก่อนไปกินบุฟเฟต์ก็กินคาร์บแค่ 30 g โปรตีน 30 g ไขมัน 10 g
นั่นคือนายเอสามารถไปกินคาร์บได้อีก 170 g, โปรตีน 120 g และไขมัน 40 g ในบุฟเฟต์ได้ ปริมาณดังกล่าวเทียบเท่ากับข้าวหุงสุกราว 500-600 g (ประมาณ 3 ถ้วย) เนื้อสัตว์ครึ่งกิโล และปริมาณนี้ไม่เกินจากที่คำนวณในโปรแกรมลดน้ำหนักของนายเอ ดังนั้นการไปกินบุฟเฟต์ครั้งนี้อิ่มพอ, มีความสุข และยังสามารถลดน้ำหนักและไขมันได้ด้วย
การลดน้ำหนักและไขมันไม่ใช่การกินอาหารน่าเบื่อๆ หรือการงดไปกินอาหารอร่อยๆ แต่การลดน้ำหนักและไขมันสำคัญที่ปริมาณสารอาหารที่ได้รับและการใช้พลังงานให้มากกว่าที่ได้รับ หากเป็นคนที่รู้จักการนับสารอาหารที่กินนั้นจะทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้อย่างยืดหยุ่น ไปกินของอร่อยๆ ก็ไม่อ้วน (เพราะรู้ว่าปริมาณที่กินเท่าไร รู้จักบริหารสารอาหารก่อนไปกิน)