PlanforFIT : แนะนำตัวสักนิด ชื่ออะไรครับ ?
คุณเอก : ชื่อ: ณัฐกิตติ์ ปกรณ์เลิศอุดม
PlanforFIT : อายุเท่าไหร่ และประกอบอาชีพอะไรอยู่ครับ ?
คุณเอก : อายุ 29 ปี
อาชีพ: นิสิตปริญญาโท คณะสังคมศาสตร์ สาขาจิตวิทยาชุมชน /ครูสอนคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ที่สถาบันภาษาแห่งหนึ่ง/ ผู้ช่วยฝึกสอนลีลาส
PlanforFIT : ตอนนี้ส่วนสูงเท่าไหร่ และน้ำหนักปัจจุบันเท่าไหร่ ครับ ?
คุณเอก : สูง 176 เซนติเมตร / น้ำหนัก 63.5 กิโลกรัม
PlanforFIT : เริ่มเล่นเวทได้ยังไง แล้วเล่นมาแล้วกี่ปีครับ ?
คุณเอก : ตั้งแต่เริ่มคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบจริงๆจังแบบใช้หลักการที่มีเหตุและผลที่ดีจริงๆ ทำให้น้ำหนักลดลงไป 20 กิโลกรัม และเปอร์เซนไขมันจากประมาณ20%กว่าๆ เหลือ 4% ลดแบบที่ไม่เคยคิดฝันว่าชีวิตนี้จะทำได้ เห็นลวดลายกล้ามเนื้อที่ชัดเจนจนตกใจมากครับ
PlanforFIT : ตั้งแต่เริ่มตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง จนถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างและใช้เวลานานแค่ไหนครับ ?
คุณเอก : เริ่มเล่นเวทมานานมากครับ รวมเกือบจะ10ปีได้แล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีหลักการอะไรเลย เล่นไปแบบงูๆปลาๆ เทรนเนอร์หรือเพื่อนสมัยนั้นว่ายังไงก็เล่นและกินตามๆโดยไม่มีความรู้เท่าไร ถ้าเอาแบบจริงจังสุดๆก็6-7เดือนที่ผ่านมาครับผม
คุณเอก : ก็ที่ผ่านมาก็มีเป้าหมายอันเดียวครับ คือ อยากมีรูปร่างที่เป็นลักษณะนายแบบที่ใหญ่และเฟิร์มครับ ซึ่งก็หาวิธีสารพัดที่มันไม่ถูกวิธี เช่น ทานแป้งมากๆ, ทานเนื้อสัตว์มากๆยิ่งดี, ทานอาหารเสริมโปรตีนตัวนี้สิเพิ่มกล้ามได้ดี , ทานอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์เนื้อสัตว์เกือบทุกอาทิตย์ ฯลฯ โดยที่ยังไม่มีความรู้อะไร ได้แต่เชื่อเขามา หรือ ประโยคยอดฮิต “เขาบอกมาว่า…., เขาว่ากันว่า……”. จนสุดท้ายรูปร่างกลายเป็นแบบลักษณะคนอ้วนไปเลย …แต่ก็ให้กำลังใจและหลอกตัวเองมาตลอดว่าที่ใหญ่เนี่ยเพราะมีกล้ามเนื้อนะ เดินในยิมตัวใหญ่ๆรู้สึกดูดี ซึ่งจริงๆมันไม่ใช่เลย มาส่องกระจกตัวเองรู้สึกว่าใช่เหรอกล้ามเนื้อ?
คุณเอก : คนรอบข้างทักผมว่าทำไมอ้วนแบบนี้ไปทำอะไรมา แม้แต่น้องสาวผมที่ชอบมาหยิกท้องผมเล่นและบอกว่า “อ้วน” รู้สึกสะกิดใจตอนนั้นมากๆครับ ที่ผ่านมาเราสร้างกล้ามนะแต่ทำไมกลายเป็นอ้วนไปด้วยไขมันเลยหละ????? แต่ไม่ถอดใจ ก็เลยนั่งคิดทบทวนสิ่งต่างๆที่ผ่านมา และมองหาหลักการที่แท้จริงว่ามันคืออะไร สุดท้ายเลยพูดกับตัวเองก่อนเริ่มจะไดเอทว่า “เราจะปล่อยให้ตัวเองอ้วนไปกว่านี้ไม่ได้แล้วอีกแล้ว!!”
คุณเอก : จนเริ่มเปิดใจกับหลักการและองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จาก PlanforFIT ล้างสิ่งที่เก่าๆออกหมดพร้อมทั้งหาความรู้เพิ่มเติมด้านต่างๆที่บกพร่อง โดยเน้นพื้นฐานเป็นสำคัญ อดทนและหนักแน่นในหลายๆอย่าง จนหุ่นผมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด คนรอบข้างเริ่มมองผมใหม่ บางคนที่เคยแกล้งไม่กล้าที่จะแกล้ง ส่องกระจกในห้องน้ำที่ฟิสเนสก็รู้สึกภูมิใจในตนเอง บางทีก็ชอบมีคนมาแอบมองอยู่เหมือนกัน ฮ่าๆ ถ้าถามว่าทำไมถึงเริ่มและอดทนได้ขนาดนี้ คำตอบมีเพียงประโยคสั้นๆครับ “เป้าหมายของผมที่ชัดเจนและไม่สั่นคลอนครับ”
PlanforFIT : ผลลัพธ์ที่ได้จากการเล่นเวทเป็นอย่างไรบ้างครับ ?
คุณเอก : ผลลัพธ์ที่ได้จากการเล่นเวทแบบจริงจัง ทำให้บุคลิกของผมดีขึ้นในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการยืน การเดิน ความคล่องตัวที่มีมากขึ้น รวมไปถึงรูปร่างที่สมส่วนมากขึ้น จนหลายๆคนทักว่า “ไปทำอะไรมา ดูSmartกว่าแต่ก่อนอีก”
PlanforFIT : โปรแกรมอาหารที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็นอย่างไรบ้างครับ ?
คุณเอก : โปรแกรมอาหารที่ใช้อยู่ผมใช้แนวทางตามหลัก Flexible Diet ครับ คือรู้ว่าวันๆนึงเราต้องได้รับสารอาหารอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไร และอยากทานอะไรก็ทาน ทำให้ผมสนุกและมีความสุขในการรับประทานมาก แต่ที่สำคัญต้องมีสติในการทานทุกครั้งครับ
สำหรับอาหารเสริมผมไม่รับประทานอาหารเสริมที่โฆษณาเกี่ยวกับการลดน้ำหนักใดๆทั้งสิ้นครับ
PlanforFIT : โปรแกรมออกกำลังกายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็นอย่างไรบ้างครับ ?
คุณเอก :โปรแกรมในปัจจุบัน จะเล่นเวทเทรนนิ่ง 4 วันแยกตามส่วนของกล้ามเนื้อมัดใหญ่หลักๆได้แก่
วันที่1:อก-หน้าแขน
วันที่2:หลัง
วันที่3:ไหล่-หลังแขน
วันที่4:ขา
ส่วนหน้าท้องนั้นจะเล่นวันเว้นวันครับ
และสุดท้ายหลังเวทเทรนนิ่งจะมีการคาร์ดิโอบนลู่วิ่งชันเป็นเวลา 40-60 นาทีครับ
PlanforFIT : อยากฝากอะไรถึงคนทีกำลังคิดจะเริ่มเล่นเวท หรือกำลังท้ออยู่ บ้างครับ ทำยังไงถึงให้ตัวเองทำต่อไปได้ครับ ?
คุณเอก : สำหรับคนที่เริ่มเล่นเวท อยากให้ศึกษาข้อมูลในการเล่นก่อนทุกครั้งครับ ในที่นี้ไม่ว่าจะเป็นท่าทางในการฝึก จำนวนครั้งในการเล่น โดยยึดพื้นฐานในการเล่นเป็นสำคัญ ซึ่งอาจสอบถามกับทางผู้เชี่ยวชาญในฟิสเนสได้ ที่สำคัญสำหรับมือใหม่เลยคืออย่าเพิ่งรีบใช้เทคนิคโกง หรือ เทคนิคอะไรต่างๆนาๆครับ เพราะมันจะทำให้ตัวเราเสี่ยงต่อการบาดเจ็บสูงมากครับ
สำหรับคนที่เริ่มเล่นแล้วรู้สึกท้อแล้ว ผมอยากให้ทำใจสบายๆก่อนครับ และมองย้อนกลับเข้าไปในตัวเองว่า “ทำไมเราถึงพาตัวเองมาอยู่ ณ ตรงนี้ได้?, เราตั้งเป้าหมายเริ่มแรกว่าอย่างไร?” ผมเคยผ่านสิ่งเหล่านี้มามาก ทั้งท้อ ทั้งหงุดหงิด อยากจะล้มเลิกไปเลย เเต่เมื่อย้อนมาคิดถึงเป้าหมายที่ผมตั้งไว้ในวันแรกสุดของการเริ่มก้าวเดินเล่นเวท มันจะทำให้เราคิดและหาทางแก้ปัญหาโดยมีจิตใต้สำนึกเราเป็นตัวผลักดันครับ ที่สำคัญต้องให้กำลังใจตัวเองทุกเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาทั้งดีและไม่ดีในการเล่น, ขอบคุณทุกประสบการณ์การเล่นที่ผ่านมาที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรต่างๆนาๆ และท้ายที่สุด “อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ จนกว่าจะลงมือทำและไปให้ถึงที่สุดครับ