Rest Paused คือลักษณะการฝึกปกที่จนถึงจุดอ่อนแรงที่ไม่สามารถออกแรงต้านได้ ให้ผู้ฝึกเก็บเหล็ก และ พัก 15-30วินาที แล้วเริ่มยกน้ำหนักเดิมนั้นต่อจนหมดแรงอีกครั้ง
หลักการและเหตุผล การยกเวทเป็นการใช้พลังงานของกล้ามเนื้อในรูปแบบ ATP -> Anaerobic Glycolysis ตามลำดับ และการให้พลังงานแบบ ATP นั้นเป็นการให้พลังงานที่แรง แต่สั้นๆ โดย ATP จะหมดไปในระยะเวลาประมาณ 3-6วินาทีแรกของการยกเวท ซึ่งนานกว่านี้ร่างกายจะเปลี่ยนไปใช้ Anaerobic Glycolysis ทั้งนี้ ATP สามารถสังเคราะห์กลับได้ใหม่โดยใช้เวลาตั้งแต่ 15-90วินาที ด้วยหลักการนี้ Rest paused เป็นการบังคับให้ร่างกายต้องออกแรงแบบ ATP ซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยเป็นการตัดช่วง Range ของ Anaerobic glycolysis ออกไปนั่นเอง การฝึกด้วยเทคนิคนี้เป็นการฝึกความต้านทานของ ATP ซึ่งส่งผลพัฒนาเรื่องของแรงระเบิด รวมทั้งเพิ่มความเข้มข้นให้กับการฝึกด้วย
คงเป็นคำถามที่พบบ่อย และ เคยได้ยินบ่อยๆจากผู้เริ่มฝึกใหม่ ในเรื่องของการดันอกท่า Press ต่างๆแล้ว “ปวดข้อมือ” หรือการจับบาร์ต้องจับแบบ “กำรอบ” หรือจับแบบ “นิ้วโป้งอยู่ฝั่งเดียวกับนิ้วมือ” ตกลงต้องจับแบบไหน อย่างไร
จากภาพ แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งของบาร์เบลล์/ดัมเบลล์ที่มีผลต่อนน.ที่กดลง และ ความสัมพันธ์กับแรงที่ดันขึ้น กล่าวคือ ในขณะที่เราออกแรงดันท่า pressนั้น ผู้ฝึกออกแรงจากกล้ามเนื้อ ส่งผ่านไปทางแนวต้นแขนใกล้เคียงแนวขนานกับพื้นโลกผ่านไปยังข้อมือและส่งผ่าน สู่น้ำหนักที่ยก จะเห็นได้ว่าข้อจำกัดของการ “กำบาร์”นั้นแนวของนิ้วโป้งจะพับอ้อมบาร์ เพื่อกำไว้ตำแหน่งของน้ำหนัก เลยถูกบังคับด้วยสรีระของนิ้วโป้งเลยจำเป็นต้องอยู่สูงขึ้นไปในมือบริเวณ เหนือตำแหน่งของโคนนิ้วโป้ง และ เมื่อนิ้วโป้งโค้งมารับบาร์จะเกิดการงอของฝ่ามือทำให้เกิด “อุ้งมือ” (ดังภาพซ้ายล่าง) แรงกดที่กระทำจากน้ำหนักจะตกลงที่ด้านบนของฝ่ามือมาก ในขณะที่แรงที่ดัน ออกจากส่วนล่าง ของฝ่ามือ ใกล้ข้อมือมากกว่า ทำให้เกิดแรง “ง้าง” ฝ่ามือไปทางด้านหลังตามแนวลูกศรสีเหลือง เปรียบเทียบกับการจับแบบ “ไม่กำบาร์” ฝ่ามือจะเป็นลักษณะเรียบกว่า และ สามารถวางบาร์ ไว้ใกล้ข้อมือได้กว่าโดยไมติดอุ้งมือส่วนนิ้วโป้ง ทำให้น้ำหนักตกลงใกล้แนวแรงที่ดันมากกว่า เกิดมุมการง้างน้อยกว่ามาก อีกทั้งแรงที่ดันออกจากขัอมือยังไม่ถูก แตกแรงมากเพราะมุมต่างในระยะห่างจาก แนวแรงต่อน้ำหนักน้อยกว่ามากนั่งเองครับ
หมายเหตุ : การจับบาร์มีส่วนในเรื่องความชอบ หรือ ความถนัดส่วนบุคคล ไม่มีข้อใดถูกหรือผิด การจับแบบ “ไม่กำ” มีความเสี่ยงในการหล่นของบาร์เบลล์มากกว่าในแบบ “กำบาร์” ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และดุลยพินิจของผู้ฝึก