ในบทความนี้จะรวบรวมอาหารเสริมที่ได้รับการยืนยันผลจากการวิจัยว่าสามารถลดน้ำหนักและไขมันได้ โดยจะพิจารณาจากงานวิจัยที่มีการควบคุมและดำเนินการทดลองอย่างเหมาะสม โดยจะแบ่งเป็น 5 กลุ่มดังนี้
1.กลุ่มที่วิจัยพบแล้วว่ามีประสิทธิภาพ
– ECA stack (Ephedra, Caffeine, Silicin) แต่เนื่องจากมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ทำให้ถูกระงับการจำหน่าย
2.กลุ่มที่มีแนวโน้มว่ามีประสิทธิภาพแต่ยังต้องการวิจัยเพิ่มเติม
– Fiber
อาจจะไม่จำเป็นต้องได้รับมาจากอาหารเสริม อาจจะได้รับในรูปของใยอาหารที่พบในอาหารปกติก็ได้ เนื่องจากใยอาหารนั้นช่วยทำให้การดูดซึมเกิดขึ้นได้ช้าลง นั่นก็คือช่วยให้ค่า glycemic index ของอาหารนั้นลดลง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มสูงเร็วเกินไป ซึ่งตรงนี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการทานพวกข้าวกล้องหรือขนมปังโฮลวีตนั้นช่วยควบคุม นน ได้
– Calcium
เป็นเรื่องที่แปลกซักหน่อย แต่จากงานวิจัยพบว่ากลุ่มคนที่ได้รับแคลเซียมเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายนั้นจะลดไขมันได้ดีกว่ากลุ่มที่ขาดแคลเซียม และเหมือนเดิมคือแคลเซียมนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปอาหารเสริมแบบเม็ดๆ จากการวิจัยก็พบว่าการได้รับแคลเซียมจากนมก็สามารถเห็นผลได้เหมือนกัน
– สารสกัดชาเขียว
สารสกัดชาเขียวช่วยทำให้ร่างกายมีระดับการเผาผลาญสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในงานวิจัยที่ศึกษากันนั้นพบว่าสารสกัดชาเขียน “มีส่วนช่วย” ในการลดไขมันในกรณีที่มีการคุมอาหารและออกกำลังกาย นั่นคือการเสริมเฉยๆ นั้นไม่ได้ช่วยอะไร แต่ถ้าคุมอาหารด้วยและออกกำลังกายไปด้วยจะเห็นผลมากกว่า
3.กลุ่มที่มีการวิจัยแล้วแต่ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่ามีประสิทธิภาพ
กลุ่มนี้เป็นอาหารเสริมที่ได้ทำการวิจัยมาแล้วก็จริง แต่ผลการวิจัยหลายๆ งานนั้นไม่สอดคล้องกัน นั่นคือมีทั้งงานที่พบว่าได้ผล บางงานก็พบว่าไม่ได้ผล ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผลที่ได้นั่นไม่แน่นอน จึงไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อเราเอามาใช้จริงๆ แล้วจะได้ผลหรือไม่
– CLA
– L-carnitine
4.กลุ่มที่ยังไม่มีงานวิจัยยืนยันถึงประสิทธิภาพ
อาหารเสริมในกลุ่มนี้เริ่มพบว่าเอามาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้ว แต่ยังไม่มีงานวิจัยที่มากพอที่จะมารองรับและยืนยันประสิทธิภาพ บางตัวก็มีงานวิจัยแล้วแต่ยังเป็นการทดลองในสัตว์ทดลองซึ่งก็ยังไม่มั่นใจว่าจะได้ผลในคนหรือไม่
– Coleus Forskolin
– DHEA (7-keto)
– Raspberry ketone
5.กลุ่มที่วิจัยพบแล้วว่าไม่มีประสิทธิภาพ
– Chitosan
ดักจับไขมัน รายละเอียดของสารนี้ ทาง P4F ได้สรุปงานวิจัยไว้แล้วในลิงค์นี้ครับ (https://wordpress.planforfit.com/index.php/ArticleContent/Detail/324)
– Chromium
ถูกโฆษณาว่าช่วยการทำงานของอินซุลิน ซึ่งก็จริงเพราะว่าอินซุลินต้องการโครเมี่ยมจริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการที่อินซุลินทำงานได้ดีขึ้นนั้นจะช่วยลดความอ้วนได้ อย่าลืมว่าเซลล์ไขมันก็เป็นแหล่งนึงที่สามารถเอาน้ำตาลในเลือดเข้าเซลล์ได้เมื่อได้รับอินซุลิน
– HCA (สารสกัดจากส้มแขก)
หลายที่โฆษณาว่าป้องกันไม่ให้เอาน้ำตาลเข้าไปเก็บเป็นไขมัน ผลที่ได้ส่วนมากพบว่าการเสริมในปริมาณมากๆ ถึง 2-3 g/วัน นั้นก็ไม่มีผลต่อการลดไขมันและ นน ปัจจุบันเจอเพียงงานวิจัยเพียงชิ้นเดียวที่พบว่าได้ผล (เสริมในปริมาณ 2.4 g/วัน) แต่เมื่อดูหลายๆ งานที่ค่อนข้างไปในทิศทางเดียวกันแล้วว่าไม่ได้ผลจึงมีการสรุปว่าสารสกัดส้มแขกนั้นไม่มีประสิทธิภาพในการลดไขมันและ นน
อ้างอิง
R. Kreider, et al. , Journal of the International Society of Sports Nutrition 7, 7+ (2010).